ก่อนจักโทษดวงดาว

90เปอเซนของคนที่ทุกข์มิใช่ดวงชะตา แต่ทุกข์จากความต้องการส่วนเกินในชีวิต

บ้างทุกข์เพราะมีบ้านรถคันเล้กไป

มีแฟนไม่รวยสวยหล่อ ไม่ได้ทานอาหารในร้านหรู ไม่พอใจในรูปร่างน่าตาตัวเอง

ทั้งนี้เพราะเราไม่ไม่เข้าในดวงชะตาวาสนาของตนเอง วาสนาของคนกวาดถนน วาสนาของเศรษฐี ทุกคนเกิดมาจึงล้วนมีวาสนาของตนเองทั้งสิ้น

แทนทีี่เราจะคิดหาวาสนาดวงชะตาอันเกิดจากกรรมเก่าคอยเปรียบเทียบกับคนอื่นเรากลับโชคร้าย ที่มองไม่เหนว่าเราเมือเกิดมาแล้วย่อมมีวาสนามรหน้าที่สำคัญต่างกันไป

เพราะมีคนอีกมากมาย ที่บางคนแท้งก่อนที่จะเกิดบางคนร่างกายพิการ ทั้งชีวิตไม่มีบ้านของตนเอง บางมื้อไม่มีจะกิน รถสักคันไม่มีจะขับ คนรักหรือครอบครัวก็ไม่มี เขาเหล่านี้ต่างหากเกิดมาทุกข์เพื่อรับวิบากโดยแท้จริง

จริงๆแล้วการดูดวงก็มีประโยชน์อยู่ เพราะศาสตร์เหล่านี้มิใช่เลื่อนลอยหากผ่านการพิสูจน์มานับพันปีมีสถิติสืบต่อกันมา

แต่การดูหมอเหมือนดาบสองคม คือสามารถทำให้คนมีความหวังเพิ่มกิเลสหนักขึ้น เพราะน้อยนักที่ชอบฟังในความเป็นจริงตามธรรม
หมอดูประหลาดๆในสังคมจึงเกิดขึ้นมากมาย

แต่อย่างไรก้อดีโหราศาสตร์ทุกแขนงสามารถเป็นแนวทางให้เราได้

หากต้องประกอบกันระหว่างผู้พยากรณ์และผู้รับคำทำนาย ที่ไม่มีมิจฉาทิฐิมาบดบัง แบบนั้นจะไม่มีประโยชน์ใดเลยเปนแต่การอยากฟังตามกิเลสตนที่ท่านจะได้คำพูดเอาใจจากหมอดูเท่านั้น

ดังนั้นเวลาดูดวงหากเห็นว่าคำพยากรณ์จากหมอดูใช้เตือนสติได้ควรนำมาพิจารณา อันใดเห็นว่าควรปรังปรุง หลบหลีกแก้ไข ไม่เสียหายก็ควรฟังไปพิจารณาเปนแนวทาง

หากอันใดที่ฟังแล้วจิตตกก็ควรพิจารณาว่าเปนผลจากวิบากในดวงเดิม ไม่จิตตกจนหมดกำลังใจ แต่มุ่งมั่นทำดวงหรือการกระทำในปัจจุบันให้ดีเพื่อเบี่ยงเบนจากหนักจะเปนเบา เบาก็จะมลาย

ดวงชะตาคนแปนผันได้เสมอ ไม่มีใครสุขหรือทุกข์ได้ตลอดไป จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลงตลอดเวลา ตามเส้นทางของเวลา ด้วยเหตุนี้วิชาโหราศาสตร์จึงมีขึ้น

แต่..ชะตาคนมิได้ขึ้นเพียงฟ้าคือดวงดาวอย่างเดียว แต่ต้องประกอบด้วย ฟ้่า ดิน คน

คนคำนวนมิอาจสู้ลิขิตฟ้า" และ "ลิขิตฟ้าฤาจะสู้มานะคน"
สุดท้ายไม่ว่าดวงเราจะดี จะร้ายทุกคนต้องไปสู่จุดสุดท้ายอันว่างเปล่าเดียวกัน
ดังนั้นจงใช้สมมุติ
ให้เกียรติในสมมุติ
ยอมรับในสมมุติ
ให้ประโยชน์แก่สมมุติ และท้ายที่สุด อย่ายึดติดในสิ่งที่เปนสมมุติ

บันทึกคนค้นดวง

11/11/57